P/E ( Price to Earnings Ratio ) อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ คือ อัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (EPS)
P/E มาจาก ราคาหุ้น
กำไรต่อหุ้น
ใช้ดู เพื่อเปรียบเทียบความถูก แพงของหุ้น ตัวอย่าง ถ้ากิจการมีกำไรมากขึ้น P/E
ก็จะลดลง แต่ถ้ากิจการมีกำไรคงที่ ราคาหุ้นกับสูงขึ้นเรื่อยๆๆ P/E ก็จะมากขึ้น
หรือถ้าจะมองอีกมุมหนึ่ง P/E คือ จำนวนปีที่นักลงทุนจะคือทุน ตัวอย่าง
ถ้าหุ้น X ราคา 10 บาท และมีกำไรต่อหุ้น 2 บาท หุ้น X จะมี P/E ratio 5 เท่า ดังนั้นหากสมมุติว่าหุ้น X จ่ายปันผลได้ 2 บาท ต่อปีคือ 2/10 = 20% และหุ้น X สามารถทำกำไรได้คงที่ทุกปีๆละ 2 บาทไปเรื่อยๆ เท่ากับว่าเราลงทุนในหุ้น X จะใช้เวลา (10 / 2 ) 5 ปีก็จะได้ทุนที่ลงไปคือ 10 บาทคืนมา
ดังนั้น P/E จะเปรียบเสมือนระยะเวลาในการคืนทุนของการลงทุนในหุ้นตัวหนึ่งๆ
นั่นเอง
Beststockclub
Blogs นี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจและข้อมูลพื้นฐาน สำหรับนักลงทุน ที่เริ่มต้นสนใจในการลงทุน เพื่อทำความเข้าใจว่าหุ้นนั้นจริงๆแล้วคืออะไร วิธีการดูงบการเงินแบบง่ายๆ บทความต่างๆที่อยู่ใน Blog นี้ได้ รวบรวมความรู้ แนวคิด และประสบการณ์ จากอาจารย์หลายๆๆ ท่าน เพื่อทำให้นักลงทุนสามารถทำความเข้าใจพื้นฐานของหุ้นได้เป็นอย่างดี ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ทุกๆท่านที่ได้ประสาทวิชาความรู้ เพื่อเผยแพร่ต่อไป
วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
สอนหุ้น Assets สินทรัพย์ ความหมาย ในงบการเงิน
สินทรัพย์ กับ ทรัพย์สินต่างกันอย่างไร? ทรัพย์สิน คือ วัตถุมีรูปร่างจับต้องได้ เช่น มือถือ นาฬิกา เงิน รถ สุนัข แมว บ้าน ที่ดิน โรงงาน เรือ เครื่องบิน ฯ ส่วน สินทรัพย์ (Assets) คือ ที่มีตัวตน และไม่มีตัวตนรวมกัน สินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน คือ จับต้องไม่ได้ เช่น ลิขสิทธิ์ สัญญาเช่า ลูกหนี้การค้า ฯ
ส่วนสินทรัพย์ที่มีตัวตน ดังที่ได้กล่าวมาแล้วคือ สิ่งที่จับต้องได้
สินทรัพย์ (Assets ) ในงบดุล ที่่เราต้องให้ความสำคัญ มี 4 เรื่อง
สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets)
1.เงินสด
2.ลูกหนี้การค้า
3.สินค้าคงเหลือ
ทรัพย์สินที่สามารถ เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายใน 1 ปี
4.สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (์Non-Current Assets)
เงินสด ที่อยู่ในงบดุล เป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนในการทำธุรกิจ
เงินสดที่บริษัทได้รับ วิธีดูๆได้จาก วงจรเงินสด หรือ Cash Cycle (day) คือ ถ้ามีค่าน้อยๆถึงติดลบ ถือว่าดีถึงดีมาก แปลว่าบริษัทได้รับเงินสดซึ่งทำให้มีสภาพคล่องสูง
ส่วนสินทรัพย์ที่มีตัวตน ดังที่ได้กล่าวมาแล้วคือ สิ่งที่จับต้องได้
สินทรัพย์ (Assets ) ในงบดุล ที่่เราต้องให้ความสำคัญ มี 4 เรื่อง
สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets)
1.เงินสด
2.ลูกหนี้การค้า
3.สินค้าคงเหลือ
ทรัพย์สินที่สามารถ เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายใน 1 ปี
4.สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (์Non-Current Assets)
เงินสด ที่อยู่ในงบดุล เป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนในการทำธุรกิจ
เงินสดที่บริษัทได้รับ วิธีดูๆได้จาก วงจรเงินสด หรือ Cash Cycle (day) คือ ถ้ามีค่าน้อยๆถึงติดลบ ถือว่าดีถึงดีมาก แปลว่าบริษัทได้รับเงินสดซึ่งทำให้มีสภาพคล่องสูง
ลูกหนี้การค้า คือการที่บริษัทส่งมอบ สินค้าให้กับลูกค้าแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้า
เลยต้องบันทึกไว้เป็น ลูกหนี้การค้าก่อน ถ้าเก็บหนี้ได้ก็จะเป็น รายได้ (Revenue) กับมายังผู้ถือหุ้น แต่ถ้าเก็บไม่ได้ก็ต้องตั้งเป็น สำรองหนี้สูญ มีผลกระทบกับกำไรงวดถัดไป วิธีดู เราอาจดูที่ ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย ถ้ามีจำนวนวันที่มากขึ้น อาจจะต้องค่อยติดตามดูในงบถัดไป
วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
สอนหุ้น ROE คืออะไร?
ROE ( Return On Equity ) คือ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Equity เป็นส่วนที่มีความสำคัญมากอีกตัวนึง เพราะสามารถเติบโตได้ การที่ส่วนของผู้ถือเติบโตขึ้น หมายความว่า CEO สามารถสร้างกำไร จาก Asset หรือ ทรัพย์สิน และกำไรสุทธิที่ได้ก็เป็นเงินสดจริง ที่นำมาจ่ายเป็นเงินปันผล หรือ Dvd.Yield% ส่วนที่เหลือก็จะเปลี่ยนชื่อ เป็น กำไรสะสม แล้วนำไปรวมไว้กับ Equity หรือ ส่วนของผู้ถือหุ้นก็จะเพิ่มมูลค่ามากขึ้น สูตร คือ
ROE= Net Profit *100
Equity
เป็นการวัดความสามารถ ของ CEO ว่านำส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Equity ไปสร้างเป็นกำไรสุทธิกลับมาเท่าไหร่ ( 20% ขึ้นไป)
คอร์สสัมมนา http://www.beststockclub.com
ROE= Net Profit *100
Equity
เป็นการวัดความสามารถ ของ CEO ว่านำส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Equity ไปสร้างเป็นกำไรสุทธิกลับมาเท่าไหร่ ( 20% ขึ้นไป)
คอร์สสัมมนา http://www.beststockclub.com
สอนหุ้น วิธีเลือกหุ้น ตอนที่ 2 เจาะความสามารถ CEO
จากตอนที่ 1 เราได้เห็นผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัทไปแล้ว ทำให้นักลงทุนพอจะตัดสินใจได้ว่า ควรจะเลือกหุ้นตัวไหนเพื่อจะศึกษาต่อไป ในตอนที่ 2 นี้จะเป็นเรื่องของการดูความสามารถของ CEO เพราะนอกบริษัทจะมีสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว CEO ของบริษัทยังต้องเก่ง มีความสามารถ และต้องทำงานโดยยึดผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก อัตราส่วนสำคัญทั้ง 5 ตัวนี้จะเป็นตัวช่วยบอกเราได้ เริ่มจาก
ATO ( Asset Turnover) คือ อัตราการหมุนของทรัพย์สิน
EM ( Equity Multiplier ) คือ อัตราการหมุนของทุน
ROA ( Return On Asset ) คือ อัตราผลตอบแทนต่อทรัพย์สิน
อัตราส่วนสำคัญทั้ง 5 ตัว เป็นการบอกว่า CEO ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ทำเพื่อผู้ถือหุ้นไหม ดูอัตราส่วนทั้ง 5 ตัวนี้ ไม่อยากขอให้ค่าที่ออกมาสูงๆ ยิ่งดีเว้นแต่ EM ที่สำคัญ ROE สำคัญที่สุดควรให้เกิน 20% ขึ้นไปติดต่อกันหลายๆปี
ROE ( Return On Equity) คือ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
NM ( Net Margin ) คือ อัตรากำไรสุทธิATO ( Asset Turnover) คือ อัตราการหมุนของทรัพย์สิน
EM ( Equity Multiplier ) คือ อัตราการหมุนของทุน
ROA ( Return On Asset ) คือ อัตราผลตอบแทนต่อทรัพย์สิน
อัตราส่วนสำคัญทั้ง 5 ตัว เป็นการบอกว่า CEO ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ทำเพื่อผู้ถือหุ้นไหม ดูอัตราส่วนทั้ง 5 ตัวนี้ ไม่อยากขอให้ค่าที่ออกมาสูงๆ ยิ่งดีเว้นแต่ EM ที่สำคัญ ROE สำคัญที่สุดควรให้เกิน 20% ขึ้นไปติดต่อกันหลายๆปี
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558
หุ้นคืออะไร
หุ้น คืออะไรเป็นคำถาม Basicที่ได้ยินกันบ่อย บ้างครั้งก็อยากรู้ หรือไม่อยากรู้ รู้แต่ว่าเห็นราคาขึ้นลงแล้วมันอยากซื้อ โดยไม่ทันคิดว่ามันคืออะไร เดี๋ยวค่อยไปดูทีหลังว่าบริษัทเค้าทำอะไร หรือ อาจจะมีคนที่ไม่เข้าใจในหุ้น มักจะพูดประโยคที่ว่า คนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น แต่เดี๋ยวนี้ ไม่รวยก็เล่นหุ้นได้ สำหรับคนที่คิดว่าจะเล่นหุ้น ขอบอกว่าคุณมาถูกทางแล้ว เพราะหุ้นทำให้นักลงทุนที่เข้าใจในการลงทุน ร่ำรวยมามากต่อมาก คำถามคือทำอย่างไร
ฉะนั้น หุ้น คือ หุ้นส่วนในการความเป็นเจ้าของร่วมกัน เมื่อเราซื้อหุ้น เราก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่ง ในส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Equity
ที่ CEO สร้างขึ้นมาไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม มีสิทธื์ได้รับเงินปันผลและ ส่วนต่างมูลค่าจากราคาหุ้น แต่ถ้าบริษัทขาดทุนก็มีผลในทางตรงกันข้ามเช่นกัน แล้วถ้านักลงทุนขายหุ้นก็เป็นการสละความเป็นเจ้าของ เบนจามิน เกรแฮม ซึ่งเป็นสุดยอดปรมจาร์ด้านการลงทุน ทั้งยังเป็นอาจารย์ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้สอนไว้ว่า
"การลงทุนที่ชาญฉลาดคือการลงทุนเสมือนเข้าร่วมทำธุรกิจ"
ทั้งยังเป็นปรัชญาแนวคิดที่ วอร์เรน ยึดมั่นอย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด ที่นี้เราก็พอรู้แล้วว่าหุ้นคืออะไร ต้องเข้าใจในกิจการ ลงทุนเสมือนเข้าร่วมทำธุรกิจ เพื่อการลงทุน ลดความเสี่ยงและสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
คอร์สสัมมนา http://www.beststockclub.com/index.php?page=aboutus
ฉะนั้น หุ้น คือ หุ้นส่วนในการความเป็นเจ้าของร่วมกัน เมื่อเราซื้อหุ้น เราก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่ง ในส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Equity
ที่ CEO สร้างขึ้นมาไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม มีสิทธื์ได้รับเงินปันผลและ ส่วนต่างมูลค่าจากราคาหุ้น แต่ถ้าบริษัทขาดทุนก็มีผลในทางตรงกันข้ามเช่นกัน แล้วถ้านักลงทุนขายหุ้นก็เป็นการสละความเป็นเจ้าของ เบนจามิน เกรแฮม ซึ่งเป็นสุดยอดปรมจาร์ด้านการลงทุน ทั้งยังเป็นอาจารย์ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้สอนไว้ว่า
"การลงทุนที่ชาญฉลาดคือการลงทุนเสมือนเข้าร่วมทำธุรกิจ"
ทั้งยังเป็นปรัชญาแนวคิดที่ วอร์เรน ยึดมั่นอย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด ที่นี้เราก็พอรู้แล้วว่าหุ้นคืออะไร ต้องเข้าใจในกิจการ ลงทุนเสมือนเข้าร่วมทำธุรกิจ เพื่อการลงทุน ลดความเสี่ยงและสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
คอร์สสัมมนา http://www.beststockclub.com/index.php?page=aboutus
สอนหุ้น วิธีเลือกหุ้น ตอนที่1 ดูผลการดำเนินงาน 2
รูปที่ 2.
ระหว่างรูปที่1 กับ รูปที่ 2 นักลงทุนคิดว่าควรจะเลือกศึกษาหุ้นตัวไหนต่อไป
คำตอบก็น่าจะเป็นรูปที่ 1
สรุปการดูผลการดำเนินการ เป็นการคัดเลือกหุ้นในเบื้องต้นเพื่อที่จะหาข้อมูลในเชิงลึกของหุ้นที่เราสนใจจะลงทุนต่อไป
หุ้นคืออะไร วิธีเลือกหุ้น ตอนที่1 ดูผลการดำเนินงาน1
มาเล่นหุ้นกัน การดูผลการดำเนินงานเปรียบเสมือน การดูผลการทำงานของ CEO หรือ เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เราจะคิดว่าเป็นการดูผลการทำงานของบริษัทก็ได้ การดูผลการดำเนินเป็นการสแกนหุ้นในขั้นตอนที่ 1 สิ่งที่เราจะดูมีด้วยกัน 4 ตัว
1.Equity ส่วนของผู้ถือหุ้น
2.Asset ทรัพย์สิน
3.Revenue รายได้
4.Net Profit กำไรสุทธิ
ตัวอย่างบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
จากรูปที่1. เราจะเห็นว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท มีการเติบโตขึ้นทุกปี
ต่อไปเราลองมาดูอีกหนึ่งบริษัท เพื่อเปรียบเทรียบผลการดำเนินงานกัน
1.Equity ส่วนของผู้ถือหุ้น
2.Asset ทรัพย์สิน
3.Revenue รายได้
4.Net Profit กำไรสุทธิ
ตัวอย่างบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
รูปที่ 1.
จากรูปที่1. เราจะเห็นว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท มีการเติบโตขึ้นทุกปี
ต่อไปเราลองมาดูอีกหนึ่งบริษัท เพื่อเปรียบเทรียบผลการดำเนินงานกัน
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)



